รอยหลุมสิว รอยแผลจากสิว นอกจากจะเป็นปัญหาผิวที่ส่งผลให้ผิวของเราไม่เรียบเนียนแล้ว ยังถือเป็นปัญหาผิวที่ใช้เวลาในการรักษานานมาก ๆ อีกด้วยค่ะ
ในบทความนี้ ก็เลยอยากมาพูดถึงสาเหตุของการเกิดหลุมสิว ประเภทของหลุมสิว วิธีรักษาหลุมสิวแต่ละวิธี พร้อมกับวิธีดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวเพิ่ม ใครมีปัญหาหลุมสิว รอยแผลจาก ผิวไม่เรียบเนียน เข้ามาอ่านบทความนี้กันก่อนนะคะ
หลุมสิว (Atrophic Scars) รอยแผลเป็นจากสิวอักเสบ ที่เกิดการยุบตัวลง ทำให้ผิวหน้าของเราไม่เรียบเนียน ผิวไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุของการเกิดหลุมสิว คือ หลุมสิวจะเกิดขึ้นเวลาที่ผิวเกิดการอักเสบมาก ๆ จากการรักษาสิวผิดวิธี หรือการกดสิวบีบสิวด้วยตัวเอง เพราะการกดสิวบีบสิวเอง อาจเป็นการทำลายชั้นผิวและทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และเมื่อคอลลาเจนใต้ชั้นผิวโดนทำลาย การซ่อมแซมผิวจากคอลลาเจนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้ผิวในบริเวณนั้นเกิดการยุบตัวลง เกิดรอย เมื่อเทียบกับผิวหนังในบริเวณใกล้เคียง
ซึ่งประเภทของสิวที่มักส่งผลให้เกิดหลุมสิว คือสิวหัวช้างที่มีขนาดใหญ่ สิวอักเสบ และการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี ไม่เหมาะสม ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของหลุมสิวได้เช่นกัน
ลักษณะ : มีลักษณะเป็นรอยแผลกว้าง หลุมตื้น ไม่มีขอบ ความลึกประมาณ 3 - 5 มิลลิเมตร ในระดับชั้นผิวเท่านั้น
ระดับความรุนแรง : ความรุนแรงทั่วไป
ลักษณะ : มีลักษณะเหมือนกล่อง ความกว้างปากหลุมและก้นหลุมเท่ากัน เห็นขอบหลุมสิวชัดเจน
ระดับความรุนแรง : ความรุนแรงปานกลาง
ลักษณะ : มีลักษณะรอยหลุมแคบ ขอบคม เป็นหลุมลึก
ระดับความรุนแรง : ความรุนแรงระดับสูง รักษาหายได้ยากมาก
ปัจจุบันหลุมสิว มีวิธีการรักษาหลายวิธีเลยค่ะ แต่ละวิธีจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของหลุมสิว ทั้งการทำเลเซอร์เพื่อช่วยฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น การกรอผิวเพื่อซ่อมแซมให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา การฉีดเมโสรักษาหลุมสิว เพื่อฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน และซ่อมแซมให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
แต่หากไม่ใช้วิธีการเลเซอร์หลุมสิว การรักษาหลุมสิวเพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียน กระชับ และดูสุขภาพดีได้อีกครั้งได้ เป็นไปได้ยากมาก เพราะหลุมสิวถือเป็นปัญหาผิวที่รักษาให้หายได้ยากมาก
เพราะฉะนั้น ใครที่เริ่มมีปัญหารอยสิวหรือเริ่มมีร่องรอยของหลุมสิว ขั้นแรก ควรเริ่มจากการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวเพิ่ม หยุดกดสิวบีบสิวเอง เพราะการบีบสิวจะส่งผลให้ผิวของเราเป็นรอยมากขึ้น แต่ให้รักษาสิวแบบถูกวิธี ใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยน เพื่อลดโอกาสการเกิดการอักเสบ ที่อาจส่งผลให้เกิดหลุมสิว
จากนั้น ปกป้องผิวด้วยสกินแคร์รูทีนขั้นพื้นฐาน เพื่อปกป้องผิวไม่ให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวโดนทำลาย ด้วยการทาครีมกันแดด และใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Glucowhite Booster ที่เข้ามาช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ป้องกันและฟื้นฟูสภาพผิว และทำให้ผิวของเราเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
อย่าง BK Acne Expert Filler Bright #Premium ครีมลดรอยสิวเติมผิวชุ่มชื้น นวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่อุดมไปด้วยสารสกัดสำคัญ กับคุณสมบัติที่พร้อมเข้าช่วยปรนนิบัติและฟื้นบำรุงผิว
พร้อมด้วย Corrector Peptide เปปไทด์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลผิวที่มีรอยแดง รอยดำ ร่องรอยหลุมสิวใหม่ รอยตื้น ๆ ระดับทั่วไป ให้ผิวของเราเรียบเนียน ดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ผสานกับนวัตกรรมความกระจ่างใส Double Bright Booster ที่มี Glucowhite Booster มากถึง 60,000 ppm เข้ามาช่วยให้รอยแดง รอยดำจางลง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวของเราแลดูกระจ่างใส เนียนกระชับมากยิ่งขึ้น