6 ขั้นตอนลดรอยสิว ผิวใส แบบเห็นผลเร็ว

วันที่ : 27/07/2022   หมวดหมู่ : รอยสิว   อ่าน : 724

วิธีลดรอยสิว

“รอยสิว” จากสิวอักเสบ รอยสิวจากการพยายามบีบสิว กดสิวด้วยตัวเองจนผิวเป็นรอยไม่หายสักที วันนี้แอดมินมีวิธีลดรอยสิว ให้รอยสิวจางเร็วขึ้นมาฝากทุกคนกัน ช่วงนี้สาว ๆ คนไหนกำลังเป็นสิว หรือเผลอบีบสิวจนเป็นรอย ห้ามพลาดน๊าาา

รอยสิว เกิดจากอะไร

รอยสิวเกิดจากอะไร?

 

รอยสิวเกิดจากการอักเสบหรือการอุดตันของรูขุมขนใต้ผิวหนัง เมื่อสิวหายแล้วก็จะทิ้งร่องรอยอย่างรอยสิวเอาไว้

 

อธิบายให้เห็นภาพกันง่าย ๆ เลยคือ สิวเกิดจากเชื้อแบคทีเรียบวกกับความมัน โดยจะเริ่มจากการเป็นสิวอุดตัน ไปจนถึงสิวอักเสบ บวม ๆ แดง เมื่อสิวอักเสบไม่ได้รับการรักษา จะเกิดเป็นรอยสิว รอยแดง และหากปล่อยให้สิวอักเสบแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จะกลายเป็นสิวหัวหนอง สรุปคือได้ทั้งรอยแดง รอยดำจากสิวเลย หรืออีกสาเหตุอาจเกิดจากการที่เราพยายามบีบสิว กดสิว พยายามเค้นหัวสิวด้วยตัวเอง ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ จนเกิดเป็นรอยแผลหรือรอยสิว ซึ่งถือว่ารักษาให้หายได้ค่อนข้างยาก

 

โดยหลัก ๆ แล้ว รอยสิวจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือรอยดำ แล้วก็รอยแดง รอยเหล่านี้ล้วนส่งผลทำให้ผิวของเราไม่เรียบเนียน ผิวไม่สม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น เราจึงควรดูแลผิวให้ถูกวิธี เลือกครีมรักษารอยสิวที่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษารอยสิวหรือช่วยลดรอยสิวได้เป็นอย่างดี แค่นี้ก็ถือว่าช่วยได้เยอะแล้วค่ะ

ลดรอยสิว

ขั้นตอนที่ 1 เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง    


วิธีลดรอยสิวให้เห็นผลเร็ว เริ่มจากการดูแลผิวให้ถูกวิธี และดูแลผิวให้ครบทุกขั้นตอนก่อนเลยนะคะ ขั้นตอนแรกเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยนต่อผิว 

 

ขั้นตอนที่ 2 ใช้เจลล้างหน้าที่มีค่า pH เหมาะสม

 

ขั้นตอนทำความสะอาดผิว เป็นอีกขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวเลยนะคะ นอกจากควรเลือกโฟมหรือเจลล้างหน้าที่ทำความสะอาดผิวสะอาดหมดจด และช่วยลดปัญหาผิวได้แล้ว ยังควรเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีค่า pH เหมาะสมกับผิว มีความสมดุลต่อผิว เพราะถ้าหากเป็นตัวที่มีค่า pH สูงเกินไป อาจส่งผลทำให้ระคายเคืองผิวได้ โดยเฉพาะช่วงเป็นสิว แล้วก็คนผิวแพ้ง่ายมาก ๆ (ค่า pH ที่เหมาะสมกับผิวคือ pH 5)

 

ขั้นตอนที่ 3 โทนเนอร์ปรับสภาพผิว  

 
หลายคนอาจมองว่าโทนเนอร์เป็นสกินแคร์ที่เกินความเป็นใน routine แต่จริง ๆ แล้ว โทนเนอร์ค่อนข้างจำเป็นกับคนผิวมัน แล้วก็คนที่ต้องแต่งหน้าทุกวันเลยนะคะ เพราะฉะนั้น เพื่อเช็คสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ในร่องรูขุมขน เพื่อช่วยให้รูขุมขนสะอาดขึ้น แล้วก็เพื่อปรับสภาพผิวก่อนทาเซรั่ม หลังทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดผิวด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวกันก่อนนะคะ

 

ขั้นตอนที่ 4 บำรุงผิวด้วยครีมลดรอยสิว 


เสร็จแล้วลงเอสเซ้นท์หรือเซรั่มต่อเลยนะคะ Step นี้ พยายามเน้นตัวที่ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว หรือตัวที่มีสรรพคุณช่วยให้รอยสิวรอยผิวจางลงได้เร็ว ผิวกระจ่างใสไว และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น แนะนำเพิ่มเติมว่า ถ้าหากผิวเราแข็งแรงพอ หากผิวยังรับไหว สกินแคร์ใน routine ไม่มากเกินไป ให้ลองเพิ่มเซรั่มที่ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวเบา ๆ อ่อน ๆ เพื่อช่วยให้รอยสิวจางเร็ว และทำให้ผิวกระจ่างใสเร็วขึ้น โดยแนะนำว่าให้ใช้แค่สัปดาห์ละ 1 – 3 ครั้งนะคะ

 

ขั้นตอนที่ 5 มอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น


ใน routine ช่วงกลางคืน อาจจะเพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่แนะนำว่าควรเลือกส่วนผสมและตัวที่อ่อนโยนกับผิวเราด้วยนะคะ อย่างเช่น ถ้าคนผิวมันเป็นสิวง่าย ก็ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำน้ำและซิลิโคนที่อาจเข้าไปอุดตันผิว

 

ขั้นตอนที่ 6 ทาครีมกันแดด

 
และสุดท้ายครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด SPF50 PA++++ ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดเลยนะคะ เพราะว่ารอยดำจากสิวจะหายยากมาก ถ้าหากเราไม่ป้องกันผิวจากแสงแดด
 

นอกจาก การดูแลผิวให้ครบทุกขั้นตอนตาม routine จะช่วยลดรอยสิวได้เร็วขึ้นแล้ว ครีมลดรอยสิวที่มีคุณสมบัติในการรักษารอยสิว ก็ถือเป็นไอเทมลดรอยสิวไอเทมสำคัญใน routine เหมือนกันนะคะ

 

อย่าง ครีมลดรอยสิว BK Acne Expert Bright Plus .. ครีมลดรอยสิวนวัตกรรม Whitening Advance Encapsulation จากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมกับตัวเพื่อผิวกระจ่างใสได้เร็วมากยิ่งขึ้นอย่าง Plus Whitening Advance Encapsulation สูตรเข้มข้นมากถึง 8000 ppm พร้อมสารสกัดสำคัญจากธรรมชาติ ที่เข้ามาช่วยลดรอยสิว รอยดำ รอยแดง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ให้ผิวแลดูเรียบเนียน กระจ่างใส และชุ่มชื้นมากขึ้น

 

ครีมลดรอยสิว bk จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องรอยสิว รอยดำ รอยแดง หรือคนที่อยากให้รอยสิวจางเร็วขึ้น กระจ่างใสเร็วขึ้น ที่สำคัญคือตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิวเลยนะคะ ผ่านการทดสอบจากสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากยุโรป ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

ิbk acne expert